วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

เรื่องน่ารู้ : เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ...


ข้อที่ 1. เพื่อนๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยครับ ดูซิว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีต เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะครับ หาให้เจอล่ะครับ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะคะ


ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ


ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะคะ


ข้อที่ 4.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลย ตรงนี้แหละสำคัญมาก เพื่อนๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะ ต่อให้เพื่อนๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ เพื่อนๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้งค่ะ

ข้อที่ 5.ต่อค่ะไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ ถ้าเพื่อนๆ อ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากเพื่อนๆ จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะคะสำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยนะคะ..อย่าทรมานวเองละคะ


ข้อที่ 6.อ่านหนังสือ เพื่อนๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะ แล้วเมื่อเพื่อนๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้เพื่อนๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่น พักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(เลือกเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละครับ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะ จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะ แต่อย่าพักจนเพลินล่ะ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลย (ทนเอาหน่อยนะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)


ข้อที่7.อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละครับ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะคะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้เพื่อนๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลยครับ แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้เพื่อนๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลยครับ จำได้ไหมครับว่าในการอ่านรอบแรกผมให้เพื่อนๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่เพื่อนๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลย ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละค่ะ


ข้อที่ 8. อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิตหน่อยสิคะเพื่อนๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไปครับ ส่วนเพื่อนๆคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะคะหานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึงนะคะใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะคะเพราะเดี๋ยวเพื่อนๆอาจป่วยได้นะคะแล้วไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะคะสำคัญเลยค่ะอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะคะได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าคะตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะคะ

วิธีอ่านหนังสือสอบให้ได้ผล


1. ปิด ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต mp3 มีสติอยู่กับหนังสือ

2. นั่งสมาธิสัก 5 นาที

3. อ่านหนึ่งรอบ แล้วสรุป โดยไม่เปิดหนังสือ

4. เช็คคำตอบ

5. อ่านอีกหนึ่งรอบ

6. สรุปใหม่ เปิดหนังสือได้เอาไว้อ่าน

7. ถ้าทำเป็น Mind Mapping จะอ่านง่ายขึ้น

8. มีเอกสารอะไรที่ครูแจก อย่าคิดว่าไม่สำคัญ

9. ท่องในส่วนที่ครูพูดย้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง/คาบ

10. ก่อนวันสอบ ห้ามหักโหมอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน เพราะสมองจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น



5 เคล็ดลับการอ่านหนังสือสอบ

1. คนที่อ่านหนังสือคนเดียวมักจะเสียเปรียบ คนที่อ่านเป็นกลุ่มมักจะได้เปรียบ เนื่องจากอ่านคนเดียวอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน หรืออ่านไม่ตรงจุด หรือ(บางคน)อาจอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าอ่านเป็นกลุ่มโอกาสอ่านผิดจุดจะยากขึ้น และยังพอช่วยกันฉุดได้
** แต่วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับคนชอบแชตนะ
2. ควรอ่านเองที่บ้านก่อน 1 รอบ และจับกลุ่มติว เสร็จแล้วกลับไปอ่านทบทวนเองที่บ้านอีก 1 รอบ (ต้องรับผิดชอบตัวเอง)
3. ผลัดกันติว ใครเข้าใจเรื่องใดมากที่สุดก็ให้เป็นผู้ติว ข้อสำคัญ อย่าคิดแต่จะเป็นผู้รับอย่างเดียว จงคิดว่าเป็นผู้ให้ก่อน แล้วคนอื่น (ถ้าไม่แล้งน้ำใจเกินไป) ก็จะให้ตอบเอง
4. ผู้ติวจะได้ทบทวนเนื้อหา และจะรู้ว่าตัวเองขาดอะไร บกพร่องอะไร จากคำถามของเพื่อนที่สงสัย บางครั้งเพื่อนก็สามารถเสริมเติมเต็มในบางจุดที่ผู้ติวขาดหายได้
5. การติวจะทำให้เกิดการ Share ความคิด และฝึกวิธีทำงานร่วม
กับผู้อื่น ช่วยพัฒนาทั้งด้าน IQ และ EQ (อ่านเองจะพัฒนาแต่ IQ)
1.ช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นช่วย
การช่วยเหลือพึ่งพากันเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อเจอกับปัญหา ตัวเราเองควรเป็นคนแรกที่ช่วยเหลือตัวเองก่อนเสมอ เพราะมันจะสร้างความภาคภูมิใจให้แก่เรา แต่ก็ไม่ถึงขนาดเย่อหยิ่ง ไม่ง้อใคร อย่าคิดว่าตัวเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างได้ ไม่จำเป็นต้องสนใจใคร ถ้าคิดแบบนั้นจะทำให้เรากลายเป็นคนไร้เพื่อนและแข็งกร้าว เอาเป็นว่าพึ่งพาตนเองก่อน ที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็พอแล้ว
2.ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและปัญหา
ชีวิตมันไม่ราบรื่นเสมอไปหรอก ทุกคนย่อมเจอกับปัญหาและอุปสรรค อาจจะหนักบ้าง เบาบ้างแตกต่างหันไป ถ้าเราสามารถผ่านการต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาที่เข้ามาได้ จะทำให้เราเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น เข้าใจชีวิต และอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างเป็นสุข คนที่ท้อแท้และไม่ต่อสู้กับสิ่งใด ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว
3.อ่อนน้อมถ่อมตน และเคารพผู้ใหญ่
ไม่มีใครในโลกที่ชอบคนเย่อหยิ่งจองหองหรอก การอ่อนน้อมถ่อมตน และเคารพผู้ใหญ่ เป็นวัฒนธรรมที่ดีของไทย สืบทอดปฏิบัติกันมาหลายชั่วคนแล้ว การอ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยน มีน้ำใจ และเป็นมิตรกับคนรอบข้าง จะทำให้เรามีแต่คนรักใคร่ ทำให้มีเพื่อนที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
4.มองโลกในแง่ดี
การมองโลกในแง่ดี จะทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ ในชีวิตมากขึ้น และสามารถสร้างทัศนคติที่ดีให้กับชีวิต แล้วยังเป็นคนที่ไม่เครียดง่ายอีกด้วย ความเครียดจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ซึ่งก็ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข การรู้จักปล่อยวางต่างหากที่จะทำให้ชีวิตสงบสุข หัดมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ แล้วมันจะทำให้ชีวิตคุณเป็นสุขมากกว่าเดิม
5.ให้โอกาสและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
คนเรามีความคิดที่แตกต่างกัน ไม่มีใครในโลกที่จะคิดเหมือนกันหมด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด การหัดยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง จะทำให้เราได้มุมมองที่หลากหลายและแตกต่างขึ้น การให้โอกาสคนอื่นเป็นเรื่องที่ดี เพราะคงไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาดมาเลยในชีวิต เมื่อเราให้โอกาสต่อผู้อื่นอย่างไร เราก็จะได้รับโอกาสนั้นจากผู้อื่นด้วยเช่นกัน
6.ยกย่องและให้เกียรติผู้อื่น
คนเราไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องการการยกย่อง และให้เกียรติด้วยกันทั้งนั้น เราควรรู้จักยกย่องให้เกียรติผู้อื่นบ้าง ตามสมควรแก่โอกาส และไม่ควรดูถูกความคิด หรือวิถีชีวิตของผู้อื่น ควรมองในแง่ที่ว่า แต่ละคนก็ต่างพอใจกับการดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน และนั่นจะทำให้เราได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น
ความสุขอยู่ที่ใจของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หรือท่ามกลางสังคมแบบไหน ถ้าใจเราเป็นสุข ชีวิตของเราก็เป็นสุขด้วยเช่นกัน ความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นจากตัวเราเอง
หวังว่า ข้อคิดดีๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ทุกๆคน ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นนะจ๊ะ

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

10 เมฆแปลกตาที่หาดูได้ยาก

อันดับ 1 Stratocumulus Clouds
เมฆ แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆๆๆๆๆๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ และเผอิญว่าเส้นยาวๆจะแบ่งเป็นช่วงๆซะด้วย ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่มน่ะ


อันดับ 2 Shelf Clouds
เป็นชั้นๆเหมือนที่กำบัง(บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก)และจะมาเป็นแนวตั้ง นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่ อย่างกับในหนังเลย กระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆและการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว
อันดับ 3 Roll Clouds
เป็น เมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่เลย

อันดับ 4 Lenticular Clouds
เกิดจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้



อันดับ 5 Cirrus Kelvin-Helmholtz
เป็น เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3นาที แล้วจากนั้นก็เละครับ เรียกว่า เป็นความบังเอิ๊ญบังเอิญจริงๆ


อันดับ 6 Noctilucent Clouds
เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆใกล้ๆขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้

อันดับ 7 Mushroom Cloud
เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่ เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์นะ
อันดับ 8 Mammatus Clouds
เมฆ ลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่าหว่า จริงๆแล้ว เมฆนีไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้วต่างหากล่ะ

อันดับ 9 Nacreous
เมฆนี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆที่แสงอาทิตย์ส่องผ่าน เป็นเวลา2ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้


อันดับที่ 10Altocumulus Castelanus
เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆเหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ





















เรื่องน่ารู้ : อัพเดทคณะยอดนิยมปี2552

TOP 100ได้มาจากการรวบรวมจำนวนคนคลิกในรอบ 10 วัน ที่สมาชิกเข้ามาใช้บริการหาข้อมูลและประเมินโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยใน www.eduzones.com ส่วนนี้จะทำการ UPDATE อย่างสมำเสมอเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกคณะ

ลำดับที่ มหาวิทยาลัย คณะ/สาขาวิชา จำนวนคนคลิกในรอบ 10 วัน
1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ 6184
2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ 4486
3 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจทั่วไป 3290
4 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาศาสตร์ 2752
5 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะโบราณคดี สาขาวิชามานุษยวิทยา 2688
6 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ 2542
7 วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ คณะพยาบาลศาสตร์ 2500
8 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวและการโรงแรม 2464
9 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว 2446
10 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ 2362
11 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ (การปกครอง)เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 (รูปแบบที่ 1) 2250
12 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สาขาวิชาศาสนาและปรัชญา 2244
13 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา 2208
14 วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย คณะพยาบาลศาสตร์ 2208
15 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาขาวิชานิเทศศาสตร์ รูปแบบที่ 1 2196
16 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะบริหารธุรกิจ 2126
17 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา 2092
18 วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ คณะพยาบาลศาสตร์ 2036
19 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะการจัดการและการท่องเที่ยว กลุ่มวิชาบริหารธุรกิจ(การตลาด การจัดการ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การเงิน) 2018
20 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา 2016
21 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะพยาบาลศาสตร์สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ 1986
22 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเลือกสอบภาษาอังกฤษ 2 1968
23 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ รูปแบบที่ 1 1964 2
4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (กศ.บ. 5 ปี) 1954
25 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะการจัดการและการท่องเที่ยวสาขาวิชาการจัดการการโรงแรมและการท่องเที่ยว(กลุ่มวิชาการจัดการการท่องเที่ยว) 1928
26 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์สาขาวิชารัฐศาสตร์ เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 1918
27 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ 1916
28 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สํานักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ 1900
29 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 1898
30 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาธุรกิจโรงแรมและที่พัก 1878
31 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (รูปแบบที่ 1) 1848
32 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะอักษรศาสตร์ เลือกสอบวิชาภาษาไทย 2 1842
33 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ (รัฐประศาสนศาสตร์) 1838
34 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา 1756
35 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สํานักวิชาพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ 1730
36 มหาวิทยาลัยนครพนม คณะพยาบาลศาสตร์ 1678
37 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ 1674
38 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาสื่อสารมวลชน (รูปแบบที่ 1) 1656
39 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาการเงินและการธนาคาร 1654
40 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการสาขาวิชาการจัดการธุรกิจและภาษาอังกฤษ 1640
41 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ 1624
42 มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา สาขาวิชากายภาพบําบัด 1604
43 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ หาดใหญ่ 1604
44 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 1604
45 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาบัญชี 1594
46 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะการสื่อสารมวลชน (รูปแบบที่ 1) 1548
47 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชนเมือง 1546
48 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะมนุษยศาสตร์ฯ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 (รูปแบบที่ 1) 1534
49 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม 1530
50 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาบริหารธุรกิจบัณฑิต(การจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว) 1528
51 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย 1526
52 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีวเคมี 1516
53 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยววิทยาเขตศรีราชา 1484
54 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์สาขาวิชาการระหว่างประเทศ เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 1482
55 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา 1478
56 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการตลาด 1472
57 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ 1468
58 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สํานักวิชาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว 1458
59 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย 1454
60 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาฟิสิกส์ วัสดุศาสตร์ 1446
61 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะจิตวิทยา (รูปแบบที่ 1) 1440
62 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สํานักวิชาการจัดการ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ 1432
63 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญาและศาสนา 1430
64 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวนศาสตร์ สาขาวิชาวนศาสตร์ 1418
65 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการออกแบบ(สายวิชาการออกแบบแอนนิเมชั่น) 1392
66 มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยการจัดการ สาขาวิชาบัญชี 1388
67 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ สาขาวิชาการบริหารทั่วไป 1374
68 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ 1372
69 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา 1370
70 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ 1368
71 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ 1358
72 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (การจัดการ) 1344
73 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (รูปแบบที่ 1) 1340
74 มหาวิทยาลัยบูรพา คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ 1332
75 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะครุศาสตร์ (รูปแบบที่ 1) 1330
76 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ 1324
77 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการเงิน 1316
78 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะวิทยาศาสตร์ หาดใหญ่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ 1314
79 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (การปกครอง) เลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 1312
80 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภูมิศาสตร์ 1308
81 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาการเมืองการปกครองเลือกสอบวิชาสังคมศึกษา 2 (รูปแบบที่ 1) 1300
82 มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะสังคมศาสตร์ หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาประวัติศาสตร์และหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิตสาขาวิชาการท่องเที่ยว (คู่ขนาน) 1300
83 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ 1296
84 มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ 1290
85 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะพยาบาลศาสตร์ 1278
86 มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการชุมชน 1276
87 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต 1234
88 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาไทยศึกษา 1222
89 มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์(แขนงวิชาอนามัยชุมชน) 1220
90 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะศึกษาศาสตร์ ปัตตานี (หลักสูตร 5 ปี) วิชาเอกภาษาไทย 1220
91 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภูมิศาสตร์ 1218
92 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุขสาขาสาธารณสุข 1216
93 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สํานักวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์สอบวิชาภาษาอังกฤษ 1214
94 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 1208
95 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ 1198
96 มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ 1192
97 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะศึกษาศาสตร์ ปัตตานี (หลักสูตร 5 ปี) วิชาเอกภาษาอังกฤษ 1192
98 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการสาขาวิชาการจัดการ วิทยาเขตศรีราชา 1178
99 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะจิตวิทยา (รูปแบบที่ 3) 1172
100 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะศึกษาศาสตร์ ปัตตานี (หลักสูตร 5 ปี)วิชาเอกการประถมศึกษา(ศิลป์) 1158

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

49 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ม.ศิลปากร




1. มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็น 1 ใน 5 มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของไทย ซึ่งประกอบไปด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหิดลในปัจจุบัน)และมหาวิทยาลัยศิลปากร


2. มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจุดกำเนิดมาจากทางด้านศิลปะ ดังนั้นอาจบอกได้ว่าไม่มีนักเรียนศิลปะคนใดที่ไม่อยากมุ่งมาตร์ปรารถนามาเรียนที่นี่


3. มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณะ-สาขาวิชาทางด้านศิลปะมากที่สุดของประเทศไทยคือ มีถึง 3 คณะคือ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์,คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และคณะมัณฑนศิลป์


4. เพลงประจำมหาวิทยาลัยศิลปากรคือเพลง Santa Lucia เป็นเพลงภาษาอิตาเลียน (เพราะมากๆขอบอก) เป็นเพลงที่ อ.ศิลป์ พีระศรีฮัมในขณะที่ทำงาน อาจกล่าวได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในไทยที่เพลงเป็นภาษาต่างประเทศ


5. สีประจำมหาวิทยาลัยก็แปลกแยกแตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะคือสีเขียวเวอร์ริเดียน เป็นเขียวออกเข้มๆหน่อย ใครอยากรู้ไปดูได้จากสีเน็คไทของนศ. ชายศิลปากร


6. คำขวัญประจำมหาวิทยาลัย คือ “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” (Ars longa Vitra Brevis)


7. ใครอาจจะมองว่าเด็กศิลปากรเป็นเด็กที่ไม่เรียบร้อย แต่งตัวไม่ดี แต่อยากจะบอกน้องๆที่จะเข้าว่า ถ้าไม่ใช่คณะทางศิลปะ เช่นคณะโบราณคดี,คณะอักษรศาสตร์,คณะศึกษาศาสตร์ ,คณะวิทยาศาสตร์,คณะเภสัชศาสตร์ ฯลฯ ในบางวิชาอาจารย์จะบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษามาเรียนและชุดนักศึกษาต้องไม่รัด ถ้าเจออาจารย์ เฮี๊ยบๆหน่อยเค้าไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียนเลย


8. มหาวิทยาลัยศิลปากรไม่ได้เด่นทางด้านศิลปะเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีความเด่นในสาขาวิชาอื่นๆอีก เช่น สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ,ภาษาไทย,ภาษาฝรั่งเศส ของคณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส,ภาษาจีน,ภาษาเกาหลี,ภาษาญี่ปุ่น ของคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาเคมี ของคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาปิโตรเคมีและวัสดุพอลิเมอร์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ฯลฯ


9. มหาวิทยาลัยศิลปากรติดอันดับ 1 ใน 5 มหาวิทยาลัยยอดนิยมที่มีผู้เลือกในการสอบเอ็นทรานซ์มากที่สุด จะเห็นได้ว่าปีนี้คณะทางสายศิลป์เช่น โบราณ,อักษร,การจัดการคะแนนขึ้น 15-20 คะแนน และจะเห็นได้ว่านักเรียนสายศิลป์ที่คะแนนกลางๆส่วนใหญ่ 1 ใน 4 อันดับการเลือกในการสอบเอ็นทรานซ์จะต้องมีศิลปากร 1 อันดับ


10. คณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาไทยเป็นคณะที่มีผู้เลือกมากที่สุดของประเทศในการสอบเอ็นทรานซ์ปี 2548 โดยมีผู้เลือกมากถึง 2,930 คน แต่รับได้เพียง 40 คน และคะแนนขึ้นจาก 177 คะแนน เป็น 247 คะแนน


11. ในการสอบเอ็นทรานซ์ครั้งนี้พบว่านักเรียนที่ได้คะแนนสูงๆที่พอจะติดจุฬา-ธรรมศาสตร์ได้หลายคนเลือกมหาวิทยาลัยศิลปากรเช่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์คะแนนสูงสุด 317.80 คณะโบราณคดี สาขาภาษาอังกฤษ 310.41 คณะโบราณคดี สาขาภาษาฝรั่งเศส 323.24 คณะอักษรศาสตร์ เลือกสอบคณิตศาสตร์ 2 330.67 คณะอักษรศาสตร์ เลือกสอบภาษาฝรั่งเศส 350.71


12. แต่ถึงอย่างไรก็ตามส่วนใหญ่นักเรียนที่สอบติดในมหาวิทยาลัยศิลปากรจะเป็นนักเรียนที่มีคะแนนกลางๆค่อนไปทางสูงราวๆ 255-290 คะแนน แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่เลือกทางด้านศิลปะถือว่าเป็นผู้ที่มีคะแนนระดับต้นๆของประเทศ


13. ในปีการศึกษา 2520 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสาขาวิชาการอ่านจารึกตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรและทรงสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2522


14. ปัจจุบันพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงศึกษาที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพิมพ์ ในชั้นปีที่ 5


15. มหาวิทยาลัยศิลปากรมี 3 วิทยาเขตคือ วังท่าพระ เป็นที่เรียนของคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์,สถาปัตยกรรมศาสตร์ (ชั้นปีที่ 3-5 ),คณะโบราณคดี,คณะมัณฑนศิลป์ ,วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เป็นที่เรียนของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (ชั้นปีที่ 1-2),คณะอักษรศาสตร์,คณะศึกษาศาสตร์,คณะวิทยาศาสตร์,คณะเภสัชศาสตร์,คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และวิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี เป็นที่เรียนของคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร,คณะวิทยาการจัดการ,คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและวิทยาลัยนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีที่ตลิ่งชันเป็นที่เรียนของคณะดุริยางคศาสตร์และที่ตั้งของบัณฑิตวิทยาลัย รวมถึงสำนักงานอธิการบดี อยู่ที่นี่แต่ที่ตลิ่งชันไม่นับเป็นวิทยาเขตนะจ๊ะ


16. คณะที่ถือว่าเป็นขวัญใจของหนุ่มๆในมหาวิทยาลัยคงหนีไม่พ้น คณะโบราณคดีและคณะอักษรศาสตร์ 17. ส่วนคณะที่ถือว่าเป็นขวัญใจของสาวๆในมหาวิทยาลัยก็มีสถาปัตยกรรมศาสตร์,มัณฑนศิลป์,ดุริยางค์,วิศวะ


18. มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นอีกมหาวิทยาลัยที่ว่ากันว่ากระเทยเยอะมากๆๆๆคณะที่มีกระเทยเยอะๆที่สุดก็คงเป็นอักษรศาสตร์ ตามด้วยโบราณคดี ศึกษาศาสตร์และวิทยาการจัดการ


19. นักศึกษาฝั่งวังท่าพระจะได้ไปที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ใน 2 โอกาสทางการคืองานรับน้องใหม่และอีกครั้งคืองานรับพระราชทานปริญญาบัตร


20. ชาวศิลปากรเรียกโรงอาหารว่า “ยูเนี่ยน” แต่ถ้าเป็นเด็กที่เรียนทางสายศิลป์-ฝรั่งเศสมารู้สึกจะเรียกว่า “อูนิยง”


21. “ยูเนี่ยน” หรือโรงอาหาร ตอนเที่ยงไม่มีวันไหนที่คนไม่เยอะ


22. “คาเฟ่” เป็นอีกหนึ่งที่ที่ชาวศิลปากรมานั่งผ่อนคลาย หรือนั่งคุย คิดว่าร้อยละ 95 ของนักศึกษาฝั่งวังท่าพระต้องเคยมานั่งที่คาเฟ่หรือไม่ก็ต้องเคยมาซื้อขนมที่นี่หละ โดยเฉพาะไอติมกับพวกน้ำปั่น อร่อยมากๆ 23. ที่ๆมีของอร่อยๆอีกที่ก็คงเป็นที่คณะจิตรกรรมฯ ชาเย็น,กาแฟเย็น,นมเย็น อร่อยมากๆค่ะ


24. การมาเป็นนักศึกษาที่นี่ต้องทำใจหน่อยเพราะห้องน้ำเล็กมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะตรงสวนแก้ว เป็นห้องน้ำที่เล็กที่สุดในประเทศไทยเลยมั้ง (ฮิฮิ)


25. งานประจำปีของมหาวิทยาลัยที่ถือว่าดังที่สุดคือ “งานกิฟต์” ของคณะมัณฑนศิลป์ ว่ากันว่าน้ำพุมาเที่ยวงานกิฟต์ก่อนที่จะตายด้วย แล้วงานกิฟต์เป็นงานที่เด็กมหาวิทยาลัยศิลปากรจะพาแฟนมาด้วย (เพราะบางทีจัดช่วงวาเลนไทน์พอดี)


26. จากการสำรวจพบว่ามหาวิทยาลัยที่เด็กศิลปากรมีแฟนและเพื่อนอยู่เยอะที่สุด คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาจเป็นเพราะว่าใกล้ๆกัน แล้วก็บางคนก็ซิ่วจากศิลปากรไปอยู่ธรรมศาสตร์ (น่าจะมีงานบอลประเพณีนะ)


27. ที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์คิดว่าคงไม่มีนักศึกษาคนไหนไม่รู้จัก “ตุ๊ดตู่”


28. ที่วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี เป็นวิทยาเขตเดียวที่ไม่มีตึกคณะ ทุกคนจะเรียนรวมกัน


29. ลืมบอกไปวังท่าพระ ไม่ใช้คำว่าวิทยาเขตถ้าจะเรียก ก็คือ “มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ” เหมือนกับ “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์”


30. นิยายหลายเรื่องก็เกิดขึ้นในรั้วศิลปากรเช่นกลิ่นสีและกาวแป้ง เป็นเรื่องของคณะจิตรกรรมฯ,เก้าอี้ขาวในห้องแดง เป็นเรื่องของคณะมัณฑนศิลป์,น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องของคณะอักษรศาสตร์,โอเนกาทีฟ เป็นเรื่องของคณะจิตรกรรมฯ (อันนี้ไม่แน่ใจ)หรือแม้แต่น้ำพุ ก็มีการพูดถึงคณะมัณฑนศิลป์


31. เวลาร้อนๆสถานที่ตากแอร์ในมหาวิทยาลัยนอกจากจะมีห้องสมุดแล้วอีกที่ก็คือหอศิลป์


32. คณะมัณฑนศิลป์ คนที่นี่เรียกกันสั้นๆ ว่า “เดค”


33. ช่วงรับน้องทุกวันศุกร์คณะฝั่งวังท่าพระก็จะมีการแสดงของน้องใหม่ประชันกันเรียกว่า “ชนช้าง” บางทีก็มีการไปชนช้างกับฝั่งสนามจันทร์เช่น อักษร และบางทีก็มีกับมหาวิทยาลัยอื่นเช่น ศิลปกรรม จุฬาฯ เป็นต้น 34. เป็นเรื่องจริงสาวโบราณกับสาวอักษร ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ สังเกตจากกิจกรรมต่างๆ ถ้ามีโบราณก็จะไม่มีอักษร ถ้ามีอักษรก็จะไม่มีโบราณ


35. ปีนี้น้องใหม่ดาราของมหาวิทยาลัยศิลปากรก็คือ “พีท เดอะสตาร์”


36. คนมีชื่อเสียงก็จบจากที่นี่หลายคนเช่น คณะจิตรกรรมฯ เช่น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์,ติ๊ก กลิ่นสี คณะโบราณคดี เช่น เปียโน วงเดอะซิส ,อ.เผ่าทอง ทองเจือ คณะมัณฑนศิลป์ เช่น นนทรีย์ นิมิตรบุตร (ผู้กำกับ),เอิน กัลยกร,สลอตแมชชีน,เข็ม กฤตธีรา (รายการ ตี10),ไก่ วงยูเอชที คณะอักษรศาสตร์ เช่น อิ่งอ้อย,ใหม่ ณัฐฐา ลอยด์,มนตรี เจนอักร,คณะศึกษาศาสตร์ 2 หนุ่มวงสครับ,คณะเภสัชศาสตร์ ตุ๊ก ชนกวนันท์ (แฟนบ๊วย เชษฐวุฒิ) ฯลฯ


37. ศิลปินแห่งชาติทางด้านศิลปะกว่าครึ่งจบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร


38. คนทั่วไปพวกตาสี ตาสาที่ไม่รู้เรื่องถ้าถามว่าเรียนที่ไหน แล้วเราตอบว่าเรียนศิลปากร ชอบนึกว่าศิลปากรเรียนรำไทย คงคิดว่าเป็นวิทยาลัยนาฏศิลป์มั้ง (กลุ้มใจ)


39. ตราประจำมหาวิทยาลัยเป็นตราพระพิฆเนศวร์ เทพแห่งศิลปะและวิทยาการต่างๆ


40. สาขาวิชาภาษาไทย,ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เป็น 3 สาขาวิชาที่เปิดสอนเหมือนกันใน 2 คณะ คือคณะโบราณคดีและคณะอักษรศาสตร์ เท่าที่รู้นะทั้ง 2 คณะเรียนไม่เหมือนกันถ้าเป็นสาขาวิชาด้านภาษาในคณะโบราณคดีจะเน้นการนำไปใช้เช่นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน รวมไปถึงการเน้นด้านการใช้ในการประกอบอาชีพ มีเรียนทางด้านวรรณคดีบ้างไม่เน้นทางด้านวรรณคดีมาก แต่ถ้าเป็นของคณะอักษรศาสตร์ จะเน้นการค้นคว้าทางด้านวรรณคดีในเชิงลึกมากกว่า การเรียนเพื่อนำไปใช้มีบ้างแต่ไม่เท่าของคณะโบราณคดี


41. คณะที่ถือได้ว่ามีจำนวนคนเยอะที่สุดในมหาวิทยาลัยคือคณะวิทยาศาสตร์


42. และคณะที่มีคนถูกรีไทร์เยอะสุดๆก็คงเป็นคณะวิทยาศาสตร์เช่นกัน อาจเป็นเพราะว่าเรียนยากมากๆ


43. สาขาวิชาปิโตรเคมีและวัสดุพอลิเมอร์ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เป็นสาขาวิชาด้านปิโตรเคมีแห่งแรกของประเทศไทย


44. ที่ศิลปากรไม่ได้มีแค่หนุ่มเซอร์-สาวเซอร์ หรือเด็กแนวเท่านั้น ถ้าเข้ามาจะพบว่าที่นี่ มีเด็กหรู หนุ่มตี๋ หนุ่มเข้ม สาวห้าว สาวหวานไปจนถึงโลโซสกปรกสุดๆ ใครที่อยากเห็นเสื้อผ้าแนวอินดี้ออกใหม่ๆสามารถมาดูได้ที่นี่ หรือใครอยากเห็นว่าเทรนด์เสื้อผ้าไปถึงไหนก็มาดูได้นะคะ แต่ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการแบ่งแยกฐานะ เพราะถ้าคุณมีความรู้สึกแบ่งแยกคุณจะเป็นคนแปลกซะเอง


45. ได้ยินข่าวมาว่าว่าที่อักษร วิชาปราบเซียนคือวิชา “ยำไทย” หรืออารยธรรมไทยนั่นเอง บางคนเกรดได้เกียรตินิยมแต่ติดเอฟตัวนี้เลยอด


46. แต่วิชาปราบเซียนของนักศึกษาชั้นปี 1 คณะโบราณคดี คือวิชาภาษาฝรั่งเศส 1 หรือที่เรียกว่า “เฟร้นวัน” ติดเอฟกันระเนระนาดย้ายเอกแทบไม่ทัน เพราะเท่าที่รู้ว่ากันว่าภาษาฝรั่งเศสของที่นี่หินสุดๆ รับเยอะ แต่จบน้อยมาก


47. คุณจะพบว่าหากคุณอยากกินอาหารอร่อย ยูเนี่ยนอาจไม่ใช่ตัวเลือก


48 ว่ากันว่าหากเปรียบศิลปากรเป็นคนคนนึงจะเป็นคนที่สมบูรณ์มากเพราะเก่งทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ ภาษาและสังคมศาสตร์


49. เท่าที่รู้มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยมีความเป็นเลิศด้านกีฬาเท่าไรนัก


วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับม.ธรรมศาสตร์




1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ของประเทศ
2.ชื่อเดิมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ธ.) คือ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ม.ธ.ก.) ที่ ต้องตัดคำว่า และการเมือง ออกนั้น เพราะว่า เพื่อไม่ให้น.ศ.ฝักใฝ่การเมืองมากไป รวมระยะเวลาที่ใช้ชื่อนี้ 18 ปี
3.สถาปนาโดยท่านผู้ประศาสน์การ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศและ กระทรวงมหาดไทย และปัจจุบันองค์การยูเนสโกได้ประกาศว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลกอีกด้วย
4.เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่ใช้ตำแหน่งผู้ประศาสน์การ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นตำแหน่งอธิการบดี)
5.ตำแหน่งผู้ประศาสน์การมีเพียงท่านเดียว คือ อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เพื่อยกย่องท่านในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย
6.อธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยเป็นนายกรัฐมนตรี คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
7.จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีก็เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกฯด้วย
8.วันสถาปนามหาวิทยาลัย คือ 27 มิถุนายน 2477 (ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว)
9.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัย เพราะขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
10.ที่ตั้งเดิมของมหาวิทยาลัยก่อนจะย้ายไปที่ท่าพระจันทร์คือ ตึกร.ร.กฎหมาย กระทรวงยุติธรรม เชิงสะพานผ่านภพลีลา ปัจจุบันเป็นที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
11.นายจิตรเสน(หมิว) อภัยวงศ์ สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงเป็นผู้ออกแบบ ตึกโดม
12.ความหมายของตึกโดม คือ ตัวโดมที่เป็นรูป 6 เหลี่ยมเพราะจะได้สะท้อนถึงหลักที่ 6 ในหลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ จะต้องให้การศึกษาเต็มที่แก่ราษฎร และ ที่ยอดตัวโดมแหลมขึ้นฟ้านั่นก็เพราะ เปรียบโดมเสมือนดินสอ ที่จดบันทึกวิชาความรู้และเรื่องราวต่างๆที่ไม่รู้จักจบสิ้นเอาไว้บนผืนฟ้าอันกว้างใหญ่
13.จุดประสงค์ในการก่อตั้ง คือ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงที่ให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวิทยาการสมัยใหม่แก่ประชาชนทุกชนชั้น โดยเก็บค่าเล่าเรียนให้น้อยที่สุด
14.ตราประจำมหาวิทยาลัย คือ พระธรรมจักร เกิดขึ้นในปี 2479 มีความหมายว่าสถาบันแห่งนี้ยึดถือคติธรรมของพระพุทธศาสนาในการกล่อมเกลาบัณฑิต สิ่งที่อยู่กลางธรรมจักรคือพานรัฐธรรมนูญ หมายถึงการยึดมั่นเชิดชูรัฐธรรมนูญ
15.สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีเหลือง-แดง มีความหมายว่า เหลือง คือ ธรรมประจำจิตใจของน.ศ. แดง คือ โลหิตที่ต้องอุทิศตนเพื่อประชาชน
16.ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นยูงทอง มีอยู่ 5 ต้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเพาะชำเอง และเสด็จฯมาทรงปลูกด้วยพระองค์เอง ยังความปลาบปลื้มมาสู่ชาวธรรมศาสตร์จวบจนทุกวันนี้
17.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยมีร.ร.เตรียม เรียกว่า ชั้นเตรียมปริญญา ชื่อ ร.ร.เตรียม ม.ธ.ก. เพื่อผลิตนักเรียนเข้าเรียนต่อใน ม.ธ.ก. มีแค่ 8 รุ่นเท่านั้น แล้วก็ยุบไป
18.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยเป็นเจ้าของ ธนาคารเอเชีย ด้วย (เพราะตอนแรกไม่ได้ขึ้นตรงต่อรัฐบาล จึงไม่ได้รับงบฯ) แต่ต่อมาถูกใช้อำนาจสกปรกขู่เข็ญให้มอบหุ้นทั้งหมดให้นายทหารผู้หนึ่ง (น่าเสียดายมากๆ)
19.คณะเริ่มแรกตั้งแต่สถาปนามหาวิทยาลัย มี 4 คณะ คือ นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์
20.เพลงประจำมหาวิทยาลัยมี 2 เพลง เพลงแรกที่ใช้ คือ เพลงประจำมหาวิทยาลัย ทำนองมอญดูดาว แต่งโดยขุนวิจิตรมาตรา และเพลงที่2 คือเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
21.ธรรมศาสตร์เคยจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วย เพื่อจะได้ดูเป็นกลาง แต่ไม่สำเร็จ
22.งานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯครั้งแรก มีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2477 ณ ทุ่งพระสุเมรุ สนามหลวง ผลคือเสมอกัน1-1 โดยครั้งนั้นยังไม่มีขบวนพาเหรด แปรอักษร หรือเชียร์ อย่างในปัจจุบัน
23.เคยสงสัยไหมว่างานฟุตบอลประเพณีบางปีทำไมเรียก ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ บางปีเรียก จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เพราะว่า ปีใดที่ไหนเป็นเจ้าภาพ ก็จะเอาชื่อของที่นั่นขึ้นก่อน ซึ่งการเป็นเจ้าภาพ ธรรมศาสตร์ จะเป็นครั้งที่เป็นเลขคี่ เพราะเริ่มครั้งแรกที่ธรรมศาสตร์ ส่วนจุฬาฯ จะเป็นครั้งที่เป็นเลขคู่ เช่น ปีหน้าครั้งที่62 จุฬาฯเป็นเจ้าภาพ
24.ธรรมศาสตร์มีงิ้วล้อการเมืองที่มีชื่อเสียงมาก คือ งิ้วธรรมศาสตร์ หรือ งิ้วการเมือง โดยมีต้นกำเนิดจาก คณะนิติศาสตร์
25.สมเด็จพระพี่นางฯ ทรงเคยเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ด้วย


26.ปีการศึกษา 2540 พระองค์ภาฯ ทรงเข้าไปนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ยังความภาคภูมิใจมาสู่ชาวธรรมศาสตร์เป็นล้นพ้น โดยทรงจบการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 อีกด้วย
27.หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นหอประชุมที่นักศึกษาม.ธ.ในอดีตภาคภูมิใจว่า เป็นหอประชุมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด ในเอเชียอาคเนย์
28.คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ได้แยกตัวออกไปเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
29.มหาวิทยาลัยถูกปิดความเป็นตลาดวิชาลงเมื่อ พ.ศ.2503 เป็นระบบสอบเข้าแทน
30.ธรรมศาสตร์ ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่จะเรียกว่าเพื่อนใหม่ เพราะถือว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
31.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จมาทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์กับนักศึกษาม.ธ.ด้วย
32.ในปี 2507 มีมติจากสภาการศึกษาแห่งชาติให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเป็น มหาวิทยาลัยภูมิพล โดยให้โอนม.ธรรมศาสตร์ไปรวมกับม.แพทยศาสตร์(ม.มหิดลปัจจุบัน) และม.ศิลปากร แต่สมาคมธรรมศาสตร์มีมติคัดค้าน จึงไม่มีการเปลี่ยนแต่อย่างใด
33.อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควบกับตำแหน่งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ แต่ตามระเบียบ ก.พ. นั้นข้าราชการจะทำงานพร้อมกันทีเดียว 2 แห่งได้ แต่จะได้รับเงินเดือนอีกแห่งเพียงครึ่งเดียว โดยอ.ป๋วยเลือกรับเงินเดือนคณบดีเต็มอัตรา 8,000 บาท และรับเงินเดือนผู้ว่าแบงค์ชาติครึ่งอัตราคือ 25,000 บาทแทน นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ในการตัดสินใจของท่านเพื่อชาวธรรมศาสตร์
34.ธรรมศาสตร์ไม่มีผู้อัญเชิญธรรมจักร เพราะถือว่า ธรรมจักรอยู่ในหัวใจของนักศึกษาทุกคน
35.จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นผู้ก่อตั้ง คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ 36.วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นวันธรรมศาสตร์อีกด้วย 37.โขนธรรมศาสตร์ เคยใช้เป็นการแสดงในการสมโภชการสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร


38.ลิฟท์แดง อยู่ที่คณะศิลปศาสตร์
39.ลานโพธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของธรรมศาสตร์และสังคมไทย นับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ที่ขบวนการนิสิตนักศึกษาประชาชนร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
40.ผู้มีพระคุณในเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ชาวธรรมศาสตร์จะลืมไม่ได้ก็คือ แม่ค้าย่านท่าพระจันทร์และปากคลองตลาด ที่จัดทำเสบียงส่งให้ตลอด


41.สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เช่าที่ดินของธรรมศาสตร์ (ที่รังสิต) เนื้อที่ 1,110 ไร่ เป็นเวลา 30 ปี รวมค่าเช่า 3,000 บาท


42.รถโดยสารในม.ธ.รังสิต คือ รถราง


43.อาหารที่ศูนย์รังสิต แพงกว่ามหาวิทยาลัยอื่นมากๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีที่ไหนอร่อยเลย


44.ห้องเรียนที่ม.ธ.ติดแอร์หมดทุกห้อง ทำให้หลับสบาย


45.คณะที่เป็นขวัญใจของสาวๆ คือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร หรือ SIIT แบบว่ารูปหล่อ บ้านรวย เรียนเก่ง(คือถ้าขึ้นปี2ได้ ถือว่านายแน่มาก) เข้าง่าย ออกง่าย(โดนไทล์) แต่จบยาก
46.เศรษฐศาสตร์ เป็นคณะหนุ่มหล่อของธรรมศาสตร์


47.บัญชี รัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เป็นคณะรวมสาวสวยของธรรมศาสตร์


48.หอเอเชี่ยนเกมส์ เป็นหอมหาวิทยาลัยรัฐฯที่หรูที่สุด มีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ยูบีซี ลิฟท์ แล้วก็เบอร์โทรศัพท์ 02 ส่วนตัวทุกห้อง (ต่อเนตได้สบายๆ) ค่าไฟแพงหูฉี่เลย (เปิดแอร์อย่างเดียวตกช.ม.ละ 6 บาท)
49.หอเอเชี่ยนเกมส์จะมีโซน A-E แต่หอน.ศ.จะอยู่ที่โซน B C E โซนB เป็นโซนห้องละ 4 คน มี 8 หลังๆละ 8 ชั้น โซนC เป็นโซนห้องละ 2 คน มี 11 หลังๆละ 8 ชั้น เช่นกัน ส่วนโซนE มี 2 หลังๆละ 4 ชั้น ไม่มีลิฟท์และก็เครื่องทำน้ำอุ่นด้วย หน้าหนาวทีก็ทนๆเอาละกัน


50.หอในเป็นหอพัดลม อาบน้ำรวม จะมีอะไรที่เหมือนๆกับหอมหาวิทยาลัยอื่นทั่วๆไป


51.เด็ก self จัดต้องนี่เลย สถาปัตย์ฯ กับ ศิลปกรรมฯ


52.ถ้าใครเล่นmsn หรือเกมส์ ในห้องคอม หอสมุดป๋วย จะโดนขึ้นประจานให้ทุกเครื่องทราบว่าคุณกำลังทำผิดกฎห้องสมุด แล้วทุกคนก็จะหันมาทางคุณกันหมด (เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากๆ)


53.โรงอาหาร SC ปัจจุบันกลายเป็น โรงอาหารวิศวะ 2 ไปซะแล้ว เพราะ 50% ที่กินข้าวที่นี่ล้วนแต่ใส่ชอปทั้งนั้น
54. สะพานที่คู่รักมักจะไปนั่งจู๋จี๋ให้อาหารปลากัน คือ สะพานปลา ที่หน้าตึกคณะวิศวะ


55.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีอีกชื่อว่า โรงพยาบาลซาร่า เพราะถึงแม้ว่าจะเจ็บปางตาย ถ้าไปขอยาจากที่นี่ก็จะได้แต่ ซาร่า (หรืออาจจะมีอย่างอื่นด้วยไม่แน่ใจ)
56.ตลาดนัดที่นี่มีฉายาว่า ตลาดนัดดูตัว เพราะจะมีคนหน้าตาดีมาเดินเยอะมาก จะมีทุกวันจันทร์ กับ พฤหัสบดี ของกินอร่อยๆก็เยอะ ของใช้ก็เยอะ เด็กม.อื่นก็มาเดินตลาดนัดที่นี่กันเยอะเช่นกัน แม้แต่จุฬาก็ยังมีเลย


57.บ.ร. คือ อาคารบรรยายรวม มีทั้งหมด 5 หลัง ตึกบ.ร.มีฉายาว่า บรรทมรวม เพราะวิชาที่น่านอนหลับจะเรียนที่ตึก บ.ร.เป็นส่วนใหญ่


58.ขนมบราวนี่ เป็นขนมที่อร่อยขึ้นชื่อของที่รังสิต เวลาไปเรียนTU130 คนมักจะต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อซื้อขึ้นไปกิน ทั้งๆที่หน้าห้องเขียนว่า “ห้ามนำอาหารและน้ำเข้ามาในห้องบรรยาย” ก็ตาม
59.ค่าไฟเฉพาะห้องบรรยาย 1,000 คน ที่บ.ร.4 อย่างเดียวตกเดือนละ 400,000 บาท


60.สะพานดาวอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ที่ศูนย์รังสิต เอาไว้พาแฟนไปชมดาวกันตอนกลางคืน ทางที่ดีควรไปรถป๊อป เพราะปั่นจักรยานไป ขาลากแน่นอน เพราะไกลมากๆ


61.ฝั่งโน้น ในความหมายของเด็กธรรมศาสตร์ คือ ร้านเหล้าทั้งหลายแหล่ ที่อยู่ฝั่งประตูเชียงราก ที่ดังๆก็จะมี กระฉ่อน89, Sweet duck เป็นต้น
62.ลักษณะของโดมแต่ละที่ โดมไม้เมืองพี่ ท่าพระจันทร์ โดมเปลือยขวัญ รังสิตทรงศรี โดมแก้ว ลำปางธานี โดมน้องพี่ เชิดชูธรรม นำผองชน
63.คลื่นPCT จะมีที่หอเอฯโซนซี อินเตอร์โซน แล้วก็บ.ร.1-บ.ร.4


64.ที่ศูนย์รังสิตมีโชว์รูมรถยุโรปด้วย ไม่ว่าจะเป็น S-class, BMWseries5, เฟอรารี่ ฯลฯ จะสามารถหาดูได้ที่ SIIT แต่ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นจะเป็นของอาจารย์


65.SIIT กับ วิศวะ ภาคอินเตอร์ คือคนละอย่างกัน เพราะ SIIT เป็นอีกสถาบัน แต่สังกัดม.ธรรมศาสตร์


66.ธรรมศาสตร์ มี 4 ศูนย์ คือท่าพระจันทร์ รังสิต พัทยา และลำปาง


67.ในสมัยที่คุณหญิงนงเยาว์ เป็นอธิการบดี เคยมีการปิดโรงอาหารกลางตอนกลางคืน เพื่อเป็นเธค ให้ความผ่อนคลายแก่น.ศ.ด้วย


68.ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่มีห้องสมุด อยู่ชั้นใต้ดิน ชื่อหอสมุดปรีดี พนมยงค์ ที่ท่าพระจันทร์
69.มีการขุดพบปืนใหญ่หลายกระบอกเมื่อครั้งก่อสร้างประตูใหม่ที่ต่อจากกำแพงโบราณ ด้านถ.พระจันทร์
70.มีการขุดพบแนวกำแพงเมืองเก่า ในขณะสร้างอาคาร 60 ปี และลานจอดรถใต้ดิน หน้าคณะรัฐศาสตร์ 71.ชื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72.ในปี 2550 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อนโดยใช้ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน
73.ที่จะลืมไม่ได้เลย ในปี 2541 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอ X นเกมส์ ครั้งที่ 13 ก็ใช้ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเป็นสถานที่จัดการแข่งขันด้วย
74.อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ฉายาคนของแผ่นดิน ผู้เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างสมถะ และสันโดษ ก็เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดี
75.สามอนุสาวรีย์ คนดีศรีธรรมศาสตร์ และประเทศไทย อยู่ที่ธรรมศาสตร์ รังสิต ได้แก่ อาจารย์ปรีดีอยู่ที่หน้าตึกยิม2 อาจารย์ป๋วยหน้าตึกเรียนรวม(SC) และอาจารย์สัญญาอยู่หน้าตึกคณะนิติศาสตร์-คณะรัฐศาสตร์
76.ธรรมศาสตร์เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพทุกตารางนิ้ว
77.คำขวัญอมตะของธรรมศาสตร์ คือ ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน
78.นักศึกษาไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษามาเรียนก็ได้ แต่อาจจะยกเว้นบางวิชา แต่ตอนนี้ได้มีการรณรงค์ให้แต่งชุดนักศึกษา
79.มีผู้เคยกล่าวไว้ว่า ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็คือประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์
80.ธรรมศาสตร์ เป็นที่เรียนที่มีตั้งแต่อนุบาล-ปริญญาเอก 81.ธรรมศาสตร์ไม่เรียกผู้ที่ศึกษาที่นี่ว่า นิสิต เพราะ ถือว่าการเป็นนิสิตเป็นการถูกกำหนดขอบเขต
82.ธรรมศาสตร์ ยังไม่มีคณะเภสัชศาสตร์ 83.ค่าไฟแต่ละเดือนของธรรมศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท จึงต้องมีโครงการธรรมศาสตร์หาร 2
84.หอจดหมายเหตุธรรมศาสตร์ อยู่ตรงข้ามหอสมุดปรีดี ที่ท่าพระจันทร์ ถ้าต้องการศึกษาประวัติมหาวิทยาลัยตั้งแต่ ปี2477 ก็สามารถดูได้จากที่นี่
85.ศาลเจ้าแม่สิงโต ซึ่งเป็นที่เคารพ สักการะของน.ศ.คณะรัฐศาสตร์ และคณะอื่นๆ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอาคาร 60 ปี
86.น.ศ.ที่อยู่หอพักที่ศูนย์รังสิต จะต้องทำการย้ายทะเบียนบ้านเข้าหอ เพื่อที่ธรรมศาสตร์จะได้ทำคุณประโยชน์ให้กับชุมชนคลองหลวงบ้าง
87.สำนักงานจัดการทรัพย์สินฯ มีอีกชื่อหนึ่งคือ สำนักงานดูดทรัพย์สิน ยิ่งตอนบิลค่าไฟมานี่ยิ่งดูดหนัก
88.อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของธรรมศาสตร์ รังสิต 89.แฟนพันธุ์แท้โขนไทย อยู่ปี1 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ
90.ตึกเรียนที่หรูที่สุดในศูนย์รังสิต คือ ตึกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (ตึก4ชั้น) หน้ามหาวิทยาลัย
91.ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีโครงเสาเหล็กมาตั้งแต่พี่ปี 5 อยู่ปี1 จนปัจจุบันโครงเสานี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม
92.หอเอฯโซนบี มักจะมีเริ่องเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติมาโดยตลอด
93.นาฬิกาลูกตุ้มบนตึกโดม มีชื่อว่า นาฬิกาปารีส ได้รับบริจาคจาก ห้างเอส.เอ.บี
94.เหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 มีผู้เสียชีวิตมากมาย และนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่า 14 ตุลาคม 2516มาก เนื่องมาจากท่านอธิการบดีในขณะนั้น คือ อาจารย์ป๋วย ถูกกล่าวโจมตีว่าฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ จนตัวท่านต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
95.ลงทะเบียนเรียนทางเทเลแบงค์ 1551 เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนสูงในการกดโทรศัพท์ พอๆกับลงทะเบียนเรียนเพิ่มกับเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียน (ที่แสนจะใจดี๊ใจดี)
96. การเดินขบวนเรียกร้องดินแดนอินโดจีน จากฝรั่งเศสคืนเป็นการเดินขบวนครั้งแรกของน.ศ.ธรรมศาสตร์
97.อาจารย์ป๋วย เป็นศิษย์เก่าม.ธรรมศาสตร์คนแรก ที่ได้เป็นอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์
98. 8 ธ.ค. 2484 ธรรมศาสตร์แพ้ฟุตบอลประเพณีกับจุฬาฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2477 ทำให้อาจารย์ผู้คุมทีมถึงกับหัวใจวายถึงแก่กรรม
99. ปลายเดือน ก.ย. 2545 เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ทำให้ต้นโพธิ์ธรรมศาสตร์ ฉีกกลางลำต้น
100.ถึงแม้ว่านักศึกษาบางคณะจะไม่ได้ศึกษาที่ท่าพระจันทร์ แต่ความเป็นจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ก็ได้รับการถ่ายทอดและหล่อหลอมให้กับนักศึกษาทุกคนเสมอมา
 
body